2553 เวลาประมาณ 21. 00 น. บริเวณ ถนนดินสอ หน้าอาคารพรรณี ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทหารบุกเข้าสลาย การชุมนุมของ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน บริเวณ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งมูราโมโตะได้เข้าไปถ่ายภาพเหตุการณ์บริเวณ ถนนราชดำเนิน ร่างมูราโมโตะถูกส่งไปที่ โรงพยาบาลกลาง และถูกชันสูตรที่ สถาบันนิติเวชวิทยา กรมตำรวจ โดยผลชันสูตรระบุว่าเสียชีวิตจากกระสุนปืนความเร็วสูงที่ทรวงอก ทำลายปอด และหลอดเลือดแดงใหญ่ [3] วันที่ 30 เมษายน 2558 ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำหรือไม่อาจทราบได้ว่ากระสุนปืนที่ยิงถูกมูราโมโตะและผู้ตายอีก 2 คน คือ วสันต์ ภู่ทอง ผู้ร่วมชุมนุม และ ทศชัย เมฆงามฟ้า ผู้ร่วมชุมนุม มีแนววิถีกระสุนปืนมาจากทิศทางใด [4] อ้างอิง [ แก้] ↑ Doherty, Ben (2010-04-14). "Military signals Thai PM's time is running out". Telegraph. The Age. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-04-14. Unknown parameter |coauthor= ignored ( |author= suggested) ( help) ↑ Szep, Jason (2010-04-10). "Reuters journalist killed in Bangkok protests". Reuters. The Washington Post. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-04-13.
ฮิโรยูกิ มูราโมโตะ เกิด พ. ศ. 2509 ญี่ปุ่น เสียชีวิต 10 เมษายน พ. 2553 กรุงเทพมหานคร, ไทย สัญชาติ ญี่ปุ่น ชาติพันธุ์ ญี่ปุ่น อาชีพ นักข่าว/ช่างภาพ องค์การ สำนักข่าวรอยเตอร์ส ฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ( ญี่ปุ่น: 村本博之 โรมาจิ: Muramoto Hiroyuki, พ. 2509 – 10 เมษายน พ. 2553) หรือที่เป็นที่รู้จักในชื่อ ฮิโระ มูราโมโตะ เป็นช่างภาพและผู้สื่อข่าว เคยทำงานให้กับ ออสเตรเลียนบอร์ดแคสติงคอร์ปอเรชัน (เอบีซี) ใน โตเกียว ในปี พ. 2533s [1] และเป็นผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว รอยเตอร์ส เป็นเวลานานกว่า 15 ปี [2] การทำงาน [ แก้] มูราโมโตะจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเทมเพิล เขาทำงานให้กับ เอ็นบีซี และเอบีซีในเวลาต่อมา หลังจากนั้นเขาเข้าร่วมกับรอยเตอร์สในฐานะช่างภาพสมัครเล่นใน พ. 2535 และกลายมาเป็นช่างภาพอาชีพใน 3 ปีถัดมา ขณะที่เขาทำงานอยู่กับรอยเตอร์สเขาได้เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงหลายพื้นที่ ทั้ง ประเทศเกาหลีเหนือ และ ประเทศฟิลิปปินส์ (ในช่วงที่การเมืองไม่มั่นคง) นอกจากนี้เขายังได้เข้าร่วมกิจกรรมการกุศลหลายประเภท โดยเขาได้ใช้เวลา 2 วัน ในการเดิน 100 กิโลเมตรบริเวณ ภูเขาไฟฟูจิ เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือคนยากไร้ใน ทวีปแอฟริกา การเสียชีวิต [ แก้] มูราโมโตะถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.
เอ็มมานูเอล เปอตีต์ มิดฟิลด์ฝรั่งเศส ที่อาร์แซน เวนเกอร์ คว้าตัวมาจากโมนาโก ด้วยค่าตัว 2. 5 ล้านปอนด์ และสามารถปรับให้แดนมิดฟิลด์ของอาร์เซน่อล ลงตัวขึ้นมาทันที เมื่อมาประสานงานร่วมกับปาทริค วิเอร่า จนกระทั่งพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จในปี 1998 จากนั้น เขาก็ย้ายไปเป็นขุนพลของบาร์เซโลน่า ก่อนจะหวนคืนสู่เวทีพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ในปี 2001 ด้วยค่าตัว 7. 5 ล้านปอนด์ แต่ดูเหมือนว่า ระดับความสุดยอดในอาชีพนักเตะของเขาได้ผ่านพ้นไปแล้ว เพราะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า กลายเป็นอุปสรรคของเขาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ จนกระทั่งถูกปล่อยตัวออกจากทีมไปในปี 2004 4. เชส ฟาเบรกาส อาร์เซน่อลกระชากตัว เชส ฟาเบรกาส มาจากลามาเซีย สถาบันฟุตบอลชื่อดังของบาร์เซโลน่า ตั้งแต่ไอ้หนูคนนี้อายุได้เพียง 16 ปี ก่อนที่ ฟาเบรกาส จะเบ่งบานกลายเป็นสุดยอดมิดฟิลด์แห่งความคลาสสิคบนเวทีพรีเมียร์ลีก ซึ่งหลังจากที่รับใช้ทีมปืนใหญ่ได้ 303 นัด และสวมปลอกแขนกัปตันทีมตั้งแต่อายุยังน้อย เขาก็หวนคืนสู่ถิ่นเก่าอย่างบาร์เซโลน่าด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ก่อนที่เชลซี จะไปกระชาก ฟาเบรกาส กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ด้วยค่าตัว 33 ล้านปอนด์ ในปี 2014 และที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาก็สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ลีกคัพ, เอฟเอคัพ ร่วมกับเชลซีได้สำเร็จ 5.
กรณีต้องการน้ำอัดลม หรือน้ำสมุนไพร 2 รายการ สามารถซื้อเพิ่ม 45. -/ Soft drinks or 2 herbal juices 45. -/pax 4. ระยะเวลาให้บริการ 2 ชั่วโมง เริ่มนับจากเวลาโต๊ะพร้อม / Service Hour: 2 Hours starts when buffet table ready. 5. ราคานี้ยังไม่รวมค่าบริการนอกสถานที่ และค่าพาหนะ / This price does not include catering service and transportation charge. 6.
เปิดพงศาวดารลูกหนังอังกฤษพบเรื่องราวที่เหลือเชื่อระหว่าง อาร์เซน่อล-เชลซี และจะพบว่า ทั้งสองทีมมีขุนพลชื่อดังมากมายที่เคยผ่านสังเวียนแข้งทั้งสองสโมสร และส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะระดับตำนานของแต่ละทีมเกือบทั้งสิ้น แต่จะเป็นใครและมีเหตุผลอย่างไรในการย้ายทีม ลองมาดูว่า มีใครกันบ้าง? 5 นักเตะ อาร์เซน่อล-เชลซี ที่ย้ายสลับขั้วกัน 1. แอชลีย์ โคล อดีตฟูลแบ็คระดับตำนานของทีมชาติอังกฤษ เริ่มต้นสร้างชื่อตัวเองตั้งแต่ถูกดันมาจากอะแคเดมี่ของอาร์เซน่อล โดยประสานงานร่วมกับ โรแบร์ ปิแรส และ เธียร์รี่ อองรี ได้อย่างสุดสะเด่า และลงเล่นกับทีมปืนใหญ่ถึง 228 นัด ทำได้ 9 ประตู ถือเป็นแบ็คซ้ายจอมลุยยุคบุกเบิกของพรีเมียร์ลีก และสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย เอฟเอคัพ 3 สมัยร่วมกับทีมปืนใหญ่ ก่อนที่ปี 2006 จะย้ายไปร่วมทัพกับเชลซี โดยมีนักเตะอย่าง วิลเลี่ยม กัลป์ล่าส์ เป็นดีล สลับขั้ว ซึ่งการสวมชุดสีน้ำเงินของเชลซี เขาสามารถก้าวไปถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกและยูโรป้าลีก เลยทีเดียว 2.
36 (รวม 3-0) น. 53 อีริคเซ่น ครอสไปที่เสาไกลให้ เดเล่ อัลลี่ กระโดดแปเน้นๆ แต่บอลไปติดเซฟ โอนาน่า อย่างเหลือเชื่อ GOAL!!! สเปอร์ส โต้กลับมาสองคน เดเล่ อัลลี เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ ลูคัส มูร่า โยกหลบลาสส์ โชน ยิงผ่านมือ โอนาน่า เข้าไป สเปอร์ส ไล่ อาแจ็กซ์ 1-2 น. 55 (รวม 3-1) GOAL!!! ทริปเปียร์ เติมมาทางขวาจ่ายเข้าในให้ยอเรนเต้ยิงติดเซฟโอนาน่า ก่อนบอลจะเด้งออกมานายด่านแคเมอรูนพยายามจะตะครุบแต่กลายเป็นว่าไปแย่งกันเล่นกับกองหลัง บอลเข้าทาง มูร่า หมุนตัวยิงด้วยซ้ายเข้าไป สเปอร์ส ตีเสมอ อาแจ็กซ์ 2-2 น. 59 (รวม 3-2) น. 63 ดูซาน ทาดิช เปิดจากกราบซ้ายมาที่บริเวณจุดโทษ ฮาคิม ซิเย็ค วางเท้าแปบอลติดไซด์โค้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย น. 79 ฮาคิม ซิเย็ค วางเท้ากดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลพุ่งชนเสาไกลอย่างน่าเสียดาย น. 86 อีริคเซ่น เปิดเตะมุมให้ยอเรนเต้ โขกชงไปที่เสาไกลให้แฟร์ทองเก้นโขกเน้นๆ ติดเซฟโอนาน่า ออกมาก่อนจะยิงซ้ำแต่แนวรับยังช่วยเคลียร์ออกมาได้ น. 90+3 อาแจ็กซ์ โต้กลับมาบอลอยู่ที่ ซิเย็ค ลองซัดด้วยซ้ายบอลไปติดเซฟของยอริสออกมา ทาดิช จะซ้ำก็ยิงแรงเกินไปออกหลังแบบไม่มีลุ้น GOAL!!! ยอเรนเต้ ดีดให้ อัลลี ก่อนจะจ่ายให้ ลูคัส มูร่า ยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไป สเปอร์ส แซงนำ อาแจ็กซ์ 3-2 น.